ความแตกต่างระหว่างสีรองพื้นสูตรน้ำกับสูตรน้ำมัน
ถ้าเกิดเป็นการทาสีรองพื้นปูนเก่าสำหรับภายนอกเลย หลายคนนั้นอาจจะเคยได้ยินว่เป็นสูตรน้ำและสูตรน้ำมันนั้นเอง แต่เรานั้นรู้ไหมว่าแต่ละสูตรนั้นแตกต่างกันยังไง และมีลักษณะที่เด่นมาก แค่ไหน ความแตกต่างระหว่างสีรองพื้นสูตรน้ำกับสูตรน้ำมัน วันนี้เลยจะมาแนะนำว่าแต่ละสูตรนั้นแตกต่างกันยังไง เพื่อที่จะให้เรานั้นสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวปูนเก่าของเราได้

สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำมันหรือสีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำ
สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำมัน
สีรองพื้นปูนเก่านั้นอาจจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากสูตรน้ำอย่างชัดเจนเลย จุดเด่นหลักๆ ก็คือ
กลิ่นแรง : สีกลิ่นนี้มักจะมีกลิ่นที่แรงมาก เนื่องจากส่วนประกอบของสารละลายนั้นจะระเหยได้ช้ากว่ามาก ทำให้เหมาะกับภายนอกมากกว่าภายใน นั้นเอง
การแทรกซึมและการยึดเกาะที่แข็งแรง : สีสูตรน้ำมันจะสามารถแทรกซึมเข้าไปที่พื้นผิวได้ลึกกว่า และยังสามารถทำให้ยึดเกาะได้ดีกว่าเดิม เหมาะสำหรับพื้นผิวปูนที่มีการเสื่อมสภาพมากกว่า
ป้องกันความชื้นได้ดี : เนื่องจากสารเคมีในสูตรน้ำมันนั้น จะสามารถสร้างชั้นเคลือบป้องกันการซึมผ่านของความชื้นนั้นได้เป็นอย่างดี ก็ตาม ทำให้เรานั้นสามารถยืดอายุการทาสีทับหน้าต่อไปได้

สีรองพื้นปูนเก่าสูตรน้ำ
สูตรน้ำนั้น มักจะตอบโจทย์ สำหรับคนที่ต้องการที่จะใช้งานในพื้นที่และต้องการความรวดเร็วอย่างมาก
กลิ่นอ่อน ปลอดภัยต่อการใช้งานภายในอาคารมาก : สีสูตรน้ำนั้นจะมีกลิ่นที่เบากว่าสูตรน้ำมัน และยังไม่ระเหยสารเคมีที่เป็นอันตรายมากอีกด้วย ทำให้สามารถใช้งานในพื้นที่ปิดได้เช่นกัน ทาสีรองพื้นปูนเก่าให้ติดแน่น
แห้งไวและสามารถใช้งานง่าย : สูตรน้ำนั้นจะแห้งตัวได้เร็วมาก โดยปกติแล้วอาจจะใช้ระยะเวลาประมาณเพียงแค่ 2-4 ชั่วโมงนั้นเอง
การเลือกสีรองพื้นปูนให้เหมะากับงานของเรานั้น
ถ้าเกิดเรานั้นต้องการที่จะ ทาสีภายนอก และต้องการควมทนทานมาก เรานั้นจำเป็นต้องใช้สูตรน้ำมัน เพื่อเพิ่มการยึดเกาะและทนทานกว่าเดิม แต่ถ้าภายในนั้น ควรที่จะเลือกสูตรน้ำดีกว่า เทคนิคการทาสีรองพื้นปูนเก่า
“มีปัญหาเรื่องการทาสี ? ปรึกษาเราได้ฟรี ! พร้อมคำแนะนำจากมืออาชีพ คลิกเลย!”
สำหรับท่านไหนที่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการทาสีนั้น สามารถเข้าไปอ่านบทความเก่าๆ ได้เลยนะครับ ขั้นตอนง่ายๆ การทาสีรั้วบ้านให้ดูสวยและทน
